คลาส A
(Class A)
ทรานซิสเตอร์ ในภาคขยายขาออกจะทำงานเต็มที่อยู่ตลอดเวลา
ไม่ว่าจะมีสัญญาณขาเข้า มากหรือน้อยเพียงใดในภาคขาออก
ทรานซิสเตอร์จะทำงานอย่างเต็มที่อยู่ตลอดเวลา จึงทำให้เครื่องมีความร้อนสูงถึงสูงมาก
คลาส B
(Class B)
จะจัดแบ่งการทำงานของทรานซิสเตอร์ในภาขยายขาออก แบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ
ด้านหนึ่งทำงานในช่วง + อีกด้านหนึ่งทำงานในช่วง - คือแบ่งกันทำงาน
จึงทำให้มีประสิทธิภาพค่อนข้างสูง แต่ก็จะมีข้อด้อย คือ ช่วงที่สลับการทำงาน ระหว่าง ช่วง + และ - การทำงานจะไม่ราบเรียบ
อาจเรียกได้ว่ามีความพร่าเพี้ยน เรียกกันว่า cross over distortion คือ ความเพี้ยนที่เกิดจากช่วงสลับการทำงานของทรานซิสเตอร์
คลาส AB (ClassAB)
คือการรวมเอาระหว่างจุดหรือข้อดีและข้อด้อย ของทั้ง CLASS A และ
CLASS B เข้าด้วยกัน นั่นคือ ในช่วงเวลาที่มีสัญญาณขาเข้าเบา
ๆ วงจรภาคขาออกจะทำงาน ในแบบ CLASS A แต่เมื่อสัญญาณขาเข้าแรงขึ้น
วงจรภาคขาออกจะทำงานในแบบ CLASS B จึงทำให้เครื่องขยายเสียงในลักษณะนี้
มีความเพี้ยนต่ำ
และมีประสิทธิภาพสูงจึงเป็นที่นิยมมากที่สุดในวงการเครื่องเสียงทั้งหมด
Good
ตอบลบเข้าใจเลย
ตอบลบอิอิ
ตอบลบดีเลยต้องการ
ตอบลบราคาเท่าไหร่ชุดนี้
ตอบลบมีปรัะโยชน์
ตอบลบ